บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดอะคาเดมี่ต้อนรับ 60 เซาะกราวรุ่นจิ๋ว ขุมกำลังนักเตะในอนาคต

ถ้าจะกล่าวถึงทีมที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในระดับแนวหน้าของวงการฟุตบอลไทย คงจะไม่มีใครไม่รู้รู้จักทีมปราสาทสายฟ้าจากเมืองเซาะกราว “ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ซึ่งสโมสรที่ยิ่งใหญ่แรกเริ่มเดิมที่เกิดจากรวมตัวกันของสองทีมใหญ่แห่งบุรีรัมย์ ได้แก่ บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมซึ่งเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 กับ บุรีรัมย์ เอฟซี ซึ่งเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 ปี 2011 เมื่อสองทีมยิ่งใหญ่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้เกิดทีมฟุตบอลที่สร้างปรากฏการณ์ที่สุดยอดแก่วงการฟุตบอลไทย นั้นคือ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวที่คว้าแชมป์ 4 รายการ ในฤดูกาลเดียวกัน ตลอดระยะเวลา 6 ปีของการก่อตั้งสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความสำเร็จมาการันตรีมากมาย คว้าแชมป์มาแล้วถึง 14 ถ้วย คือ แชมป์ถ้วยพระราชทาน ก., แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก, แชมป์พรีเมียร์คัพ, แชมป์ลีกคัพ, แชมป์เอฟเอคัพ ที่แต่ละถ้วยได้ไปประดับที่สนามเคสเซิล สเตเดี้ยม มากกว่า 1 ฤดูกาลเสีย ด้วยซ้ำ
ซึ่งทางบอร์ดบริหารของสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ดได้เปิดเผย ถึงองค์ประกอบของความสำเร็จสามประการ คือ ความทุ่มเท และความเอาจริงเอาจัง ของนายใหญ่ประธานสโมสร คือ คุณเนวิน ชิดชอบ, ความมุ่งมั่นตั้งใจที่กระหายชัยชนะเมื่อลงแข่งขันของนักฟุตบอลทุกคน และการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมของแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคน ร่วมทั้งผู้สนับสนุน ที่ถือว่าเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ซึ่งร่วมเคียงข้าง เป็นกำลังใจในนักกีฬา ทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเป็นกำลังหลักที่ทำให้ทีมก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ ตลอดระยะเวลาการก่อตั้งสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นมาตลอดระยะเวลาหกปี มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งข่าวดี ข่าวร้าย แต่แฟนบอลทุกคนของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงสนับสนุนและให้กำลังใจสโมสรอย่างเหนียวแน่นตลอดมา และในปีนี้ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาพร้อมกับเป้าหมายที่เอาไว้พุ่งชน คือ “Road to Asia’s Top 5” หรือมุ่งการเป็น 1 ใน 5 ของทีมฟุตบอลแห่งทวีปเอเชีย

คงจะเป็นที่ประจักษ์กันแล้วว่าความยิ่งใหญ่ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน นอกจากการพัฒนาทีมชุดใหญ่แล้ว การสนับสนุนเยาวชนก็ได้รับความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เปิดการคัดคัวนักเตะเยาวชนอายุ 9 – 16 ปี ซึ่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะเคเดมี่ ฟาบิโอ เปอร์ไรร่า ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า มีเด็กเข้ามารับการคัดเลือกกว่า 5,000 คน ทางอะคาเดมี่ได้คัดเลือกจนเหลือ 104 คน และคัดเลือกต่อจนถึงวันสุดท้ายได้นักเตะรุ่นจิ๋วหน้าใหม่เข้าสู่อะคาเดมี่ 60 คน ซึ่งทางสโมสรพึงพอใจอย่างมากกับคุณภาพของเด็กที่ถูกคัดเข้ามาจนถึงรอบสุดท้าย และมั่นใจว่าพวกเขาได้นักเตะฝีเท้าดีเข้ารวมทีมแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันสำหรับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี่ ได้มีเด็กฝึกในอะคามี่อยู่ในการฝึกสอน 144 คน

ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างนักเตะเยาวชนสู่นักเตะอาชีพ ซึ่งเหล่าเซาะกราวรุ่นเล็กนี้ ในอนาคตอาจจะเป็นนักฟุตบอลระดับแนวหน้าของประเทศของเป็นไปได้

ร่วมร้องเพลงไปกับ “David Guetta” สำหรับการทำเพลงธีมฟุตบอลยูโร 2016

ใกล้เข้ามาแล้วกับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 (UEFA European Football Championship 2016) หรือที่เราเรียกกันติดฝากว่าฟุตบอลยูโร สำหรับทัวนาเมนต์นี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ซึ่งเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้คือประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการฟาดแข้งระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน ถึง 10 กรกฏาคม 2016 สำหรับการแข่งขันฟุตบอลยูโร นอกจากไฮไลน์การแข่งขัน การเตรียมงานของเจ้าภาพ สนามที่ใช้แข่งขัน และนักฟุตบอลทีมชาติต่างๆที่เข้ารวมการแข่งขันครั้งนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นไฮไลน์ของงานที่ทั้งสื่อมวลชนและแฟนบอลต่างจับตาดูจับหูฟังนั้นก็คือ เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป  2016 นี้จะออกมาในรูปแบบไหน และใครจะได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้

ซึ่งทางเจ้าภาพฝรั่งเศสก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ว่าศิลปินคนที่จะได้รับหน้าที่แต่งเพลงสำหรับพิธีเปิดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือฟุตบอลยูโร 2016 นั้นก็คือ เดวิต เกตตา (David Guetta) ซึ่งเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์มือทอง สำหรับวงการเพลงในปัจจุบัน ซึ่งเขาได้สร้างผลที่มีคุณภาพและสร้างชื่อเสียงมาอย่างต่อเนือง เนื่องจากว่าเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้คือประเทศฝรั่งเศส และดีเจชาวฝรั่งเศสคนนี้คือตัวเลือกที่ดีมากสำหรับงานนี้แน่นอน รับรองได้ว่าทั้งแฟนบอลและแฟนเพลงไม่ผิดหวังแน่นอน สำหรับฝีมือของเดวิด เกตตา

สำหรับเดวิด เกตตา นั้น เขาเป็นดีเจที่มียอดขายเพลงสูงที่สุดในโลก เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ เช่น Akon, Fergie, will.i.am, The Black Eyed Peas, LMFAO, Madonna, Kelly Rowland, Lil’ Wayne, Flo Rida, Rianna, Nicki Minaj, Usher, John Legend และศิลปินชื่อดังอื่นๆ อีกมามาย บนเส้นทางอาชีพดีเจของเขานั้น ทำยอดขายได้กว่า 9 ล้านอัลบั้ม, 42 ล้านซิงเกิ้ล, 2 ล้านสตรีมบนแอพพลิเคชั่นสปอติฟาย และมียอดคนดูบนยูทูปกว่า 4.3 ล้านบนช่องอย่างเป็นทางการ เขามี 55 ล้านแฟนคลับที่กดไลน์บนเฟซบุ๊ค มียอดผู้ติดตามกว่า 19 ล้านคนบนทวิตเตอร์ และ 4 ล้านคนบนอินสตราแกรม

ในช่วงที่เรารอฟังเพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 อยู่นี้ เราสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเพลงนี้ได้ด้วย เพราะดีเจระดับโลกอย่าง เดวิด เกตตา มีกิจกรรมที่สุดพิเศษสำหรับทุกๆคน นั้นในคือ ในแฟนๆ สามารมีส่วนร่วมในการบันทึกเสียงของตัวเองในการร้องบางช่วงเพลงประจำการแข่งขันนี้ผ่านเว็บไซต์ www.thisonesforyou.com ซึ่งจะมีคำแนะนำและสอนวิธีการบันทึกเสียงง่ายๆ ที่บ้านของคุณเอง และพิเศษยิ่งๆขึ้นอีก สำหรับแฟนๆที่ร่วมกิจกรรมนี้ ยังมีโอกาสลุ้น มีทแอนด์กรี๊ดกับเดวิด เกตตา, ตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศส, ได้รับสิทธิ์เป็นแขกวีไอพีในการแสดงสดของเดวิด เกตตา ที่  Champ de Mars ใต้หอไอเฟล, รับบัตรเข้าชมพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2016 และตั๋วเข้าชมฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศที่สนาม Stade de France ด้วย

ซึ่งดีเจระดับโลกเดวิด เกตตา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับยูฟ่าในการทำเพลงประจำทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสบ้านเกิดของผม สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 เป็นที่เกี่ยวข้องกับแฟนๆ ดังนั้นผมต้องการที่จะให้แฟนๆ ทุกคนได้มีส่วนร่วมในเพลงที่ผมจะทำนี้ด้วย ผมพยายามเป็นอย่างมากที่จะทำในสิ่งที่พิเศษมากๆ เพื่อทุกคน และสุดท้ายขอให้แฟนๆ ทุกคนทั่วโลกได้เฉลิมฉลองเทศกาลฟุตบอลยูโรนี้กันอย่างเป็นทางการ”

ลิเวอร์พูลเตรียมเฮ เมื่อ มาริโอ เกิทเซ มีข่าวไม่อยากอยู่ถิ่นเสือใต้ต่อ งานนี้มีโอกาสเป็นของหงส์สูงมาก

มิดฟิลด์วัย 23 ปี มาริโอ เกิทเซ ผู้ซึ่งเป็นนักเตะผู้ทำประตูชัยให้กับทีมอินทรีเหล็กเยอรมันนี ได้สมหวังกับการครองแชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อปี ค.ศ.2014 ในระดับสโมสรมีข่าวลือหนาจากหลายๆ สื่อว่า เขาเริ่มไม่มีความสุขกับการค้าแข้งในระดับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค นำมาซึ่งการอำลาจากแคว้นบาวาเรีย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มาริโอ เกิทเซ ได้นั่งข้างสนามบ่อยๆ ลงเล่นเป็นตัวจริงนับครั้งได้ และกลายเป็นตัวเลือกอับดับรองๆของทีมเสื้อใต้ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งฤดูกาลนี้เขาได้ลงสนามเพียง 12 นัด ในทุกรายการแข่งขันตลอดฤดูกาน 2015 – 16 เนื่องจากว่า มาริโอ เกิทเซ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนที่บริเวณต้นขาด้านหลัง อาการบาดเจ็บนี้สร้างปัญหาแก่เขาเป็นระยะ จนทำให้เกิดข่าวลือต่างๆมากมายเกี่ยวกับการที่เขาจะต้องย้ายออกจากถิ่นอัลลิอันซ์ อารีนา หลังจบการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลนี้ แม้ว่าล่าสุด มาริโอ เกิทเซ จะเพิ่งสามารถเรียกความฟิตจากปัญหาการเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงได้ ก็ยังไม่ได้อยู่ในแผนการเล่นของทีม ซึ่งเขาได้รับโอกาสลงเล่นเพียงแค่ 1 นัด หลังจากเรียกความฟิตกลับมาได้

ซึ่งเป็นที่ชัดเจนเลยว่า ข่าวลือนี้จะถือเป็นข่าวดีมาก สำหรับสโมสรขวัญใจมหาชนแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ อย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล เมื่อกองหน้าทีมชาติเยอรมันนี้ โธมุส มุลเลอร์ ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมกับมาริโอ เกิทเซ ได้ให้คำตอบในการสัมภาษณ์เมื่อสื่อมวลชนถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของ มาริโอ เกิทเซ เพื่อนของเขาว่า “หลังจากที่ผมได้คุยกับมาริโอแล้ว ผมคิดว่าเขาไม่ได้มีความสุขอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็น กับสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นในสโมสรบาเยิร์น มิวนิค แต่เนื่องจากผมเองก็ไม่ใช่เอเยนต์ของเขา ผมของอนุญาตไม่พูดถึงเรื่องอนาคตการเล่นฟุตบอลของมาริโอ เกิทเซ” และเขายังได้ทิ้งท้ายการตอบคำถามว่า “มาริโอ เกิทเซ เป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพมาโดยตลอด และเขาหวังว่ามาริโอ กิทเซ จะทำผลงานได้ดีในการเล่นให้กับทีมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่เขาจะได้แสดงฟอร์มการเล่นที่ดี ในทัวร์นาเมนต์ที่กำลังจะมาถึงนี้”

จากนั้นทำให้หลายสำนักข่าวต่างประเทศรายว่า สโมสรยิ่งใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล นั้นขยับเข้าใกล้การคว้าตัวตัวกองกลางตัวรุกทีมชาติเยอรมันของทีมบาร์เยิร์น มิวนิค หลังจากมีรายงานข่าวว่า มาริโอ เกิทเซ่ ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง คาร์โล อันเชลลอตติ ในฤดูกาลหน้า ทำให้ข่าวที่ว่าเขาจะมาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์นั้นมีความเป็นไปได้อย่างมาก ซึ่ง มาริโอ เกิทเซ เคยร่วมงานกับ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์ที่ลิเวอร์พูล ตั้งแต่สมัยที่ทั้งสองทำงานร่วมกันที่สโมสรโบรุทเซียร์ ดอร์ทมุน นั้นอาจจะมีอิทธิพลทำให้ความเป็นไปได้ที่มาริโอ เกิทเซ จะย้ายไปทีมหงส์แดงสูงขึ้นไปอีก ซึ่งทางมาริโอ เกิทเซ ก็ออกมายอมรับเป็นนัยๆ ว่า ทั้งเขาและคล็อปป์มีการพูดคุยกันผ่านทางข้อความเกี่ยวกับการย้ายทีม ซึ่งหลายๆสื่อคาดการณ์ไว้ว่าค่าตัวที่ลิเวอร์พูลจะทุ่มเพื่อคว้าตัวกองกลางตัวรุกรายนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 31 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ดี แม้ว่ามาริโอ เกิทเซ่ จะไม่ได้อยู่ในแผนการเล่นในระดับสโมสร แต่ดาวซัลโวสูงสุดในศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี  2010  แอฟฟริกาใต้ ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก โยอัคคิม เลิฟ ผู้จัดการทีมชาติเยอรมัน ในการเป็นกำลังสำคัญสำหรับทีมอินทรีเหล็กเยอรมันนี ที่จะลุยศึกฟุตบอลยูโร 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน ถึง 10 กรกฏาคม นี้ ซึ่งกุนซือทีมอินทรีเหล็กเยอรมันนี้ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อว่า “เรามีความคาดหวังในตัวของมาริโอ เกิทเซ สำหรับทัวร์นาเมนท์นี้ เพราะเขาคือนักเตะคนสำคัญของทีม เรารู้ความสามารถของเขาดี เขายังอยู่ในแผนการทำทีมของเรา ทั้งนี้ทัศนคติของเขาก็ดีเยี่ยม รวมทั้งเขามีเทคนิคบางอย่างที่เหลือเชื่อ และเขาสามารถจะตัดสินเกมได้”

 

 

 

มิดฟิลด์เนื้อหอม “พอล ป็อกบา” สโมสรยันไม่ย้ายทีมแน่ ยังอยู่กับยูเวนตุสต่อไป

ในช่วงก่อนหน้าที่มีสื่อฝรั่งเศสรายงานว่า พอล ป็อกบา นักฟุตบอลวัน 23 ปี ของทีม “ม้าลาย” ยูเวนตุส ได้นัดพบกับบอร์ดบริการของสโมสรปารีส แซงต์แชร์กแมง ทีมใหญ่จากแดนน้ำหอม พร้อมที่จะพูดคุยถึงการย้ายไปร่วมทีมในลีกฝรั่งเศสช่วงซัมเมอร์นี้หลังจบฤดูกาล จากข่าวนี้ทำให้เมื่อวันที่ 18 มีนาคมนั้น จูเซ็ปเป มารอตต้า ผู้อำนวยการทั่วไปของทีม “ม้าลาย” ยูเวนตุส ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้เพื่อสยบข่าวลือไปพราง ซึ่งเขาได้ออกมากล่าวว่า นักตะดาวเด่นรายนี้เดินทางไปเมืองปารีสที่ประเทศบ้านเกิดเพื่อไปช่วยงานสปอร์นเซอร์ของเขา ไม่ได้เกี่ยวของกับการเจรจาย้ายทีมแต่อย่างได้ และกล่าวว่าพอล ป็อกบา มีสัญญากับทางสโมสรต่อไปอีกลายปี ทั้งนี้ พอล ป็อกบา เหลือสัญญากับทีม “ม้าลาย” ไปจนถึงปี ค.ศ.2019 โดยการออกมาปฏิเสธนี้ จูเซ็ปเป มารอตต้า ได้แสดงความมั่นใจออกมาอย่างชัดเจนว่า พอล ป็อกบา นักเตะคนสำคัญของทีมจะค้าแข้งที่ยูเวนตุสต่อไปอีกหลายปี
ซึ่งเห็นได้ว่านักเตะคนนี้มีความฮอตมาก เนื่องจากมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แม้กระทั้งพอล สโคลส์ มิดฟิลด์ระดับตำนานของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมใหญ่จากแดนผู้ดี ซึ่ง พอล สโคลส์ ยอมรับว่า อยากเห็นอดีตนักเตะรุ่นน้องอย่าง พอล ป็อกบา กลับมาสวมชุดสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และลงเล่นให้กับทีมรักอีกครั้ง ซึ่ง พอล ป็อกบา เป็นอดีตเด็นปั้นของทีมปิศาจแดง ย้ายออกจากถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด เมื่อปี ค.ศ.2012 หลังหมดสัญญา ก่อนที่จะย้ายไปสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองที่ยูเวนตุส จากการพาทีมครองถ้วยสคูเด็ตโต 3 สมัยซ้อน และได้ตำแหน่งรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และในฤดูกาลนี้ พอล ปอกบา ทำผลงานได้ค่อนข้างดี คือ ยิงไป 8 ประตู จากการลงเล่น 41 เกมในทุกรายงานแข่งขันฟุตบอล

ซึ่งช่วงนี้ พอล ป็อกบา กลายเป็นนักเตะเนื้อหอม เนื่องจากเหล่าบรรดาทีมใหญ่ในทวีปยุโรปต่างพยายามตามจีบ แต่ก็มีข่าวลือออกมาว่า พอล ป็อกบา มีความสนใจในการยายไปเป็นนักแตะของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูการถัดไป เพื่อที่จะได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมสมองเพชรอย่าง เป็ป กวาร์ดิโอลา ที่เพิ่งย้ายมาคุมทีม “เรือใบสีฟ้า” ดวยสัญญา 3 ปี ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าถ้าได้ร่วมงานกับกุนซือสมองเพชรรายนี้ จะช่วยให้เขาสามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปเป็นนักเตะระดับต้นๆของโลกได้ในอนาคตอันใกล้นี้

ข่าวพัวพันเกี่ยวการย้ายทีมของ พอล ป็อกบา กองกลางชาวฝรั่งออกมาอย่างหน้าหู แต่ทุกอย่างค่อนข้างจะชัดเจนในตอนนี้ว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทางสโมสรยูเวนตุสจะปล่อยนักเตะตัวหลักอย่าง พอล ป็อกบา ไปง่ายๆ ทั้งนี้ทางสโมสรมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะอยู่เล่นให้กับทีมดังแห่งตูรินต่อไปในฤดูกาลหน้า ซึ่งจูเซ็ปเป มาร็อตต้า บอกกับสื่อว่าตัวนักเตะที่เป็นคนบอกกับเขาเป็นการส่วนตัวว่าต้องการที่จะอยู่ที่นี้ต่อ ซึ่งเขาได้ในสัมภาษณ์ว่า “พอล ป็อกบา เป็นผู้เล่นของสโมสรยูเวนตุส และเขายังมีสัญญากับทางสโมสร และมากกว่านั้นเขายังได้บอกกล่าวเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาที่จะเล่นฟุตบอลใหกับทีมยูเวนตุสต่อไป และมีแนวโน้มว่าจะอยู่กับทีมต่อไปอีกหลายปี ชุดแข่งของทีมยูเวนตุส เป็นสิ่งที่ควรเคารพ แต่นั้นไม่ได้สรุปว่า พอล ป็อกบาจะอยู่กับทีมต่อไป เนื่องจากวงการฟุตบอลไม่มีอะไรที่สามารถการันตีได้แน่นอน แต่เราเชื่อมั่นว่าเขาจะใส่เสื้อยูเวนตุสต่อไป”